“Big Data – AI” ยกระดับ “กิจธุระครีเอทีฟโฆษณาการ” และก่อสร้าง “Brand Experience” ได้มาเช่นไร ?

ตอนนี้ “AI” (Artificial Intelligence) ซึมสิงสู่ที่ชีวิตประจำวันสรรพสิ่งคนเรา ด้วยกันแทบจะอยู่กับดักทุกกลุ่มงาน แม้แต่งานโฆษณา กับสื่อสารการตลาดที่นับวัน Big Data และเทคโนโลยี AI มีบทบาทประกบกระบวนการทบทวนดูคิดค้นธุรกิจเติบโตบริบูรณ์ตอนนี้ Media ประกอบด้วยเหลือแหล่เรือแพลตแบบฟอร์ม และการใช้งานของผู้ใช้แห่งแต่ละแพลตฟอร์มประกอบด้วยสัณฐาน-แนวทางการใช้งานสถานที่ผิดแผกกักคุม ขณะเดียวกันพอผู้ซื้อเข้าถึงเทคโนโลยี กับอินเทอร์เน็ตสถานที่เชื่อมต่อโลกตลอดใบเข้าเก็บด้วยกัน มีผลแยกออกคนสมัยดิจิทัลมีความดำรงฐานะเฉพาะผู้เดียว (Individual) ประกอบด้วยไลฟ์สไตล์ผิดแผก ด้วยกันมี Demanding ซับซ้อนโน่นแสดงคดีว่า การแห่งแบรนด์จักเข้าถึงลูกค้า จักมิใช่พรมที่วงกว้าง ไม่ก็ Mass Audience แต่ว่าต้อง ลงดึ่มไชผู้ใช้เป็นรายบุคคลต้นฉบับ Hyper-personalize พร้อมด้วยคอนเทนต์ ด้วยกันแมสเสจที่ใช้ จำเป็นจะต้องเจาะจงเพื่อมนุษย์ๆ ตรงนั้น เพราะคอนเทนต์นั้นๆ จำต้องคล้องจองกับดักบุคลิกลักษณะ กับแนวทางการใช้งานสิ่งของแต่ละเรือแพลตฟอร์ม งานจะทำเช่นนั้นได้มา หัวใจสำคัญสิงสู่ที่ธุรกิจร่วมมือระหว่าง “Creativity + Data + Machine Learning + AI” พัฒนาการปีกการตลาด – การติดต่อสื่อสารสถานที่กลาย ขนมจากเวลาอุตสาหกรรมการผลิต สู่ระยะเวลา Big Data ด้วยกัน AIความเจริญปีกการตลาดอยู่คู่กับดักผู้ซื้อสิ่งลวงตาลวงใจโฉบาน นับจากระยะเวลาอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งแห่งสมัยตรงนั้นเป็น Mass Production ภายหลังครั้นสินค้าผลิตป้อนไปสู่ท้องตลาดมากมาย ย่อมทำให้เกิดการชิงดีชิงเด่นงอกงาม จึ่งก่อกำเนิดกลอุบายการตลาดแนวทางปะปนกัน สิ่งของแต่ละแบรนด์ในการเย้ายวนใจจ่ายผู้ซื้อมาจ่ายผลิตภัณฑ์ของร่างกายกระทั่งแห่งระยะกระทั่ง 20 – 30 พรรษามานี้ ดำรงฐานะเวลาก่อสร้างแบรนด์ดิ้ง กับกลยุทธ์การติดต่อสื่อสารแนวทาง IMC (Integrated Marketing Communication) ซึ่งเป็นตอนๆเวลาก่อนกำหนดจะเข้าสู่สมัยดิจิทัลครบถ้วนแนวทาง ในเวลานั้นการสำรวจกับการศึกษาค้นคว้าพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มมีบทบาทสำคัญกับดักการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้วยกันวิธีพลิกแพลงการตลาดทำให้งานทำงานกลับขั้วจาก “Inside-out” สถานที่เก่าก่อนการพัฒนาของซื้อของขาย การวางแผนกลยุทธ์การตลาด และการจำหน่ายมาจากชายหาดแบรนด์ ไม่ก็ที่องค์กรเป็นหลัก เปลี่ยนลงมาเป็น “Outside-in” ที่มาขนมจากการเล่าเรียน กับเรียนรู้ผู้ใช้ เพื่อจะปฏิรูปให้ซูบปัญหาความมุ่งมาดระหว่างที่แห่งช่วงกระทั่ง 10 ชันษาลงมาตรงนี้ไปสู่เวลาดิจิทัล และก่อกำเนิดเทคโนโลยีลงมาดำรงฐานะเครื่องอุปกรณ์ทางราชการท้องตลาดนวชาตๆ แยกออกกับแบรนด์ นักการตลาด และนักโฆษณา จากระยะเวลา Digital Marketing สถานที่มีเครื่องมือหลักเขต อาทิเช่น SEM, Social Media, Website ยุคปัจจุบันเจริญไปสู่ “Marketing Technology” (MarTech) มีการพา Big Data และจับเทคโนโลยีนวชาตมาผสานเข้าไปที่ทุกวิธีการทางงาน ไม่ว่าจะครอบครอง Machine Learning และ AI หนึ่งในกระบวนการมุขธุรกิจสถานที่นำ MarTech ลงมาใช้ ถือเอาว่า ส่วนการงานท้องตลาด และการติดต่อสื่อสาร ซึ่งเชื่อมโยงจากไปไปสู่วิธีการการค้าขาย แห่งที่ระยะเวลานี้ทั้งปวงแบรนด์ เมื่อออกทุนปีกการติดต่อสื่อสารไปต่อจากนั้น ย่อมอยากผลลัพธ์คือ “Conversion” เป็นพิเศษ “ยอดค้าขาย” ประมาณพรรษา 2023 ค่าการลงทุน “AI” สิ่งของธุรกิจทั่วโลกสูงศักดิ์ถึง 7. พันล้านเหรียญสหรัฐ“International Data Corporation” หรือไม่ก็ “IDC” บอกล่วงหน้าบริหารให้ทุนเทคโนโลยี AI แห่งหมวดธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกจักยังคงทวีคูณสม่ำเสมอ เพราะที่พรรษา 201 มูลค่าการลงทุนด้านตรงนี้สิงสู่สถานที่ 37.5 พันเลี่ยนเหรียญสหรัฐ ด้วยกันที่พรรษา 2023 จักทวีคูณเป็น 7. โพกหัวเลี่ยนเหรียญสหรัฐพวกธุรกิจแห่งออกทุนแห่งข้าง AI อย่างหนักถือเอาว่า “หมวดธุรกิจขายหลีก” (Retail) และ “งานสถาบันงานสินทรัพย์” (Banking) เพราะว่าการทำงานค้าปลีกให้ทุนเทคโนโลยี AI เพื่อนำมาให้บริการแนวทางอัตโนมัติอายุมากผู้ใช้ ระบบให้คำปรึกษากับแนะนำโปรดักจับต์-บริการขณะเมื่อสถาบันการเงินออกทุน AI เพื่อที่จะใช้คืนแห่งเหลือแหล่ด้าน อาทิเช่น ให้บริการภาพร่างอัตโนมัติอายุมากผู้ซื้อ กบิลรักษาการควบคุมคากระทรวงมหาดไทยางเทคโนโลยี วิเคราะห์ด้วยกันตรวจการฉ้อฉลนอกจากนี้อุตสาหกรรมอื่นๆ ประกอบด้วยการลงทุน AI เช่นกัน อาทิเช่น ชดใช้แห่งการวางแผนกระบวนการผลิตล่วงหน้า, ชดใช้ AI ที่ข้างสุขภาพ ด้วยกันใช้คืนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปกครองชั้นตัวยงขณะเดียวกัน “Accenture” ประมาณว่า AI เอาใจช่วยสร้างงานก้าวหน้าทางเศรษฐกิจครอบครองสองเท่าในปี 2035 และเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานงอกงาม 40% “Big Data” ด้วยกัน “AI” สร้างภูมิทัศน์ใหม่ที่ธุรกิจ “Creativity” กับ “Brand Experience” ร้อยวันพันปีมา “Creativity” แห่งการทำงานโฆษณาการมาจาก “มนุษย์” เป็นสำคัญ แต่ว่าในสมัยเทคโนโลยี กับดิจิทัล ด้วยเหตุที่เสนอไปข้างต้นตรงนั้น ผู้ใช้ดำเนินชีวิตสิงสู่บนบานศาลกล่าวมากแพลตแบบฟอร์ม แต่ละเรือแพลตแบบฟอร์มประกอบด้วยความแตกต่าง กับลูกค้าอยากให้แบรนด์ซูบโจทย์ Personalizeขาดไม่ได้อย่างยิ่งที่งานโฆษณาการ และการติดต่อสื่อสารจำเป็นจะต้องครีเอทแยกออก “คอนเอียงนต์” ด้วยกัน “แมสเสจแห่งไม้คานตะแคงนต์” ให้ประกอบด้วยความหลากหลาย และแตกต่างกันแห่งแต่ละเรือแพลตแบบฟอร์ม ดังนี้เอง “Big Data” สถานที่ผสานกับดักงานชดใช้ “Machine Learning” กับ “AI” แล้วจึงมากขึ้นความสำคัญยิ่งขึ้น ที่สภาพเป็นเสมือนตลอด “ผู้ช่วย” กับ “เสาหลักด้าน” สิ่งของมนุชกระทำครีเอทีฟแห่งการสร้างสรรค์งานโฆษณาการ กับการติดต่อสื่อสาร ทั่วรูปแบบคอนเทนต์ และภาษา ไม่ก็แมสเสจถิ่นที่อยู่แห่งคอนเทนต์นั้นๆ นั่นเพราะตอบปัญหาใน 3 ข้อความเสาคือว่า 1. สนับสนุนจ่ายนักการตลาด – นักโฆษณาแจ้งพฤติกรรมผู้บริโภค – ตัว หรือไม่ก็ทรรศนะสิ่งของผู้ใช้แต่ละบุคคลแห่งชั้น Hyper-personalization ซึ่งเป็นเหตุให้งานแห่งออกมา ถูกอกถูกใจ กับซูบปัญหา Pain Point ลูกค้า2. พอแบรนด์เข้าใจผู้ใช้ดึ่มชั้นรายบุคคลแล้ว ล้วนแล้วไปด้วยทำให้การพาเสนอผลิตผล – บริการ และโปรโมชั่นต่างๆ สามารถไชผู้ใช้ได้มาไม่ผิดมนุษย์ ถูกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ผิดระยะเวลา เช่น– Geo-location นำเสนอของซื้อของขาย-บริการ โปรโมชั่น-สิทธิประโยชน์สอดคล้องกับโลเกชั่นสถานที่ผู้ใช้กำลังจะไป หรือไม่ก็จากไปประจำ ไม่ก็กำลังสิงสู่ในเวลานั้น – Real-time Moment นำเสนอสินค้า-บริการ หรือโปรโมชั่น-สิทธิประโยชน์แห่งจังหวะที่ผู้ใช้สิงสู่กับอันๆ ตรงนั้นพอดิบพอดี – Recommendation System กบิลจักชี้แจงอันที่ลูกค้าคนนั้นๆ สนใจ หรือไม่ก็ส่งติดสอยห้อยตามพฤติกรรมผู้บริโภค สมรรถจับข้อมูลได้มาขนมจาก Digital Footprint แห่งมนุษย์เรามีปฏิสัมพันธ์อีกด้วย เป็นต้นว่า เสิร์ช ไม่ก็คลิกมองดูผลิตภัณฑ์ 3. พอการโฆษณา หรือไม่ก็ข้อแนะนำโปรโมชั่น หรือไม่ก็สิทธิประโยชน์กระยาเลย ไม่ผิดส่งจากไปยังผู้ใช้ที่ยั่วแห่งสิ่งๆ ตรงนั้นสิงสู่ต่อจากนั้น ด้วยกันในจังหวะ หรือโมเมนต์ที่ใช่ ล้วนแล้วไปด้วยทำเอาเป็นเหตุให้แบรนด์เข้าสิงสู่ในแตงโมเมนต์ ด้วยกันโลเกชั่นที่ใช่ กับดักลูกค้าแห่งกำลังประกอบด้วยความต้องการ หรือไม่ก็มองหาสินค้า/บริการนั้นๆ พอดี รวมถึงสนับสนุนครีเอท Demand ให้กับผู้ใช้ได้อีกด้วยกับสิ่งสถานที่ตามมาคือ สร้าง “Brand Experience” ริมรวมให้กับดักผู้ใช้ ยิ่งกว่าเชิงลบสถานที่โดยมากสร้างความเบื่อหน่ายจิตใจจ่ายกับลูกค้า ขนมจากการที่ครอบครองกรณี ไม่ก็โฆษณาการของซื้อของขาย/บริการแห่งตัวเองไม่ได้แยแส กรณีศึกษา “JPMorgan Chase” และ “Campbell’s Soup” ใช้คืนเทคโนโลยี AI สร้าง Engagement – Conversion พอให้เห็นภาพของหน่วยงาน/แบรนด์สถานที่ใช้ Machine Learning กับ AI มาปฏิรูปประสิทธิภาพทางการท้องตลาดจ่ายทุเลา ตัวอย่างเช่น หญิบกรณีศึกษาตรงนี้“JPMorgan Chase & Coมันสมอง” ผู้ให้บริการปีกการคลังและการลงทุนรายใหญ่ระดับโลกสิ่งของอเมริกา คว้าเซ็นสัญญา 5 พรรษากับดัก “Persado” ครอบครองผู้พัฒนานวัตกรรมข้างการตลาด เป็นต้นว่า AI, Data Science, Machine Learning กับการคำนวณมุขภาษาศาสตร์ เพื่อจะชดใช้แพลตฟอร์มสรรพสิ่ง Persado ในการพินิจพิจารณาถ้อยคำ-คดีจากแห่งฐานข้อมูลภาษาทางการท้องตลาด รวมหมดถ้อยคำ ด้วยกันกลุ่มคำคลังรวบรวมยิ่งกว่า 1 ล้านวจี เพื่อนำมาสร้างครอบครอง “หัวเรื่องคดี” แห่งงอกงามเหตุด้วยใช้คืนที่แคมเปญติดต่อการตลาดผลิตผลกับบริการทางการเงินสรรพสิ่งแบงค์ Chaseโดยนำร่องใช้กับกลุ่มธุรกิจตั๋ว ด้วยกันสินเชื่อบ้าน ผลมีอยู่ว่าหลังจากชดใช้เรือแพลตฟอร์ม AI อัตรการคลิกมองดูการโฆษณา เพิ่ม 450% พออุปมัยกับดักโฆษณาอื่นๆ จักมีตำแหน่งการคลิกอยู่แห่ง 50 – 200%Photo Credit : Bumble Dee / ShutterstockมันสมองcomKristin Lemkau, CEO ที่หน่วยงาน Wealth Management สรรพสิ่ง JPMorgan Chase คุ้นชินรายงานไว้ที่งานประชุม Web Summit ที่บุรีลิถูกใจอนเก็บว่า Machine Learning ด้วยกัน AI มีบทบาทประกบการตัดสินใจสิ่งของพวกครีเอทีฟแห่งงานสร้างสรรค์คำโฆษณาแยกออกเย้ายวนใจการฝักใฝ่ลูกค้า กับดูคืนดีงอกงามชนิดการโฆษณาสินเชื่อบ้านสรรพสิ่งแบงค์ Chase เก่าก่อนชดใช้คำกล่าวสั้นๆ สถานที่เป็น Key Word อาทิเช่น “พบกับดักสินเชื่อเรือนดอกเบี้ยวิเศษวันตรงนี้” แม้ว่าทางธนาคารฯ คว้า Insights ขนมจากงานพินิจพิจารณาของ Machine Learning ทำให้กรุ๊ปครีเอทีฟผลัดกันพาดหัวข่าว และถ้อยคำสถานที่ใช้ในการโฆษณา เช่นกันงานเพิ่มถ้อยคำแห่งแมสเสจ พอให้การสื่อสารมองดูคืนดี กับมี Human Touch งอกงาม เช่น “ขอแสดงความยินดี คุณมาถูกมุขแล้ว! พานพบกับสินเชื่อเรือนดอกเยี่ยม สนใจข้อปลีกย่อยด้วยกันตาขอข้อคิดเห็นเพิ่มพูน คลิก/ลงสมัคร…”“อีฉันมองเห็นตวาดธนาคาร Chase ศรัทธาที่ฤทธิ์ของ Data ที่การสร้าง Engagement ระหว่างแบรนด์ กับดักผู้ใช้ยุคปัจจุบัน ควบคู่กับการก่อสร้างฐานผู้ใช้ใหม่ ซึ่งนี่จักครอบครองงานทแตกส์แบบฟอร์มการตลาดสรรพสิ่งพวกเขา กับในสเต็ปต่อไปในงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ถือเอาว่า เรายังคงเจริญ Data-driven Message แห่งคว้าขนมจากลูกค้า เพื่อจะนำมาใช้ที่การติดต่อสื่อสารการตลาดตั้งแต่ชั้นเซ็กเมนต์ จรจวบจนถึงชั้นรายบุคคล ทำให้ผู้ส่งเสริมงานสมรรถให้บริการในหนทาง Omni-channel Personalization ซึ่งนี่จะเสร็จสร้างอนาคตทางการตลาดนวชาตจากไปเช่นกันห้าม” Yuval Efrati ประธานบริหารทิศสอดส่องผู้ซื้อของ Persado ส่องแสงภาพทิศทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปPhoto Credit : Stephanie L Sanchez / Shutterstockมันสมองcomอีกหนึ่งกรณีศึกษาสรรพสิ่งแบรนด์แห่งขยับมาใช้เทคโนโลยีทางการท้องตลาด เพื่อจะก่อสร้าง Engagement ด้วยกัน Brand Experience กับดักผู้ซื้อภาพร่างเฉพาะบุคคล คือ “Campbell’s Soup” แบรนด์ซุปกระป๋องที่ถือเป็นเอ็ดแห่ง Iconic Brand ยิ่งใหญ่ที่อยู่แห่งตลาดสิ่งลวงตาลวงใจโฉบาปักษินว่า 150 พรรษาจดจักดำรงฐานะแบรนด์เก่าแก่ แม้ว่า “Campbell’s Soup” คว้าปรับนิสัย และก่อ Digital Transformation องค์กร ด้วยกันแบรนด์ หนึ่งที่ตรงนั้นคือสร้างการช่วยกันกับดัก “IBM Watson” ครั้นเช่นเดียวกับ 4 – 5 พรรษาที่แล้ว พร้อมด้วยการนำเทคโนโลยี “AI” ของ IBM Watson กับข้อมูลบอกล่วงหน้าสภาพภูมิอากาศขนมจาก The Weather Company ซึ่งเป็นกองกลางดองและประมวลผลข้อมูลอากาศสถานที่ IBM จับจ่ายใช้สอยการงาน มาใช้คืนแห่งการโฆษณาของ Campbell’s Soup เพื่อจะสมรรถพูดจากับผู้ใช้คว้าต้นฉบับตัวต่อตัว (One-to-one Conversation)Photo Credit : calimedia / Shutterstockมันสมองcomเพราะว่ามี AI ทำงานพินิจพิจารณาสูตรอาหารบริบูรณ์มากพันสูตรสถานที่ไม่ผิดบันทึกข้อมูลเข้าไป รวมกับดักข่าววัตถุดิบ – เครื่องปรุง ด้วยกันข่าวสารโลเกชั่นสรรพสิ่งผู้ใช้งานคนๆ นั้นแล้วลูกค้าเข้าที่ใบหน้าเว็บไซต์ ไม่ก็สถานที่แอปพลิเคชันสรรพสิ่ง The Weather Company จะปรากฏโฆษณา “Campbell’s Soup” ผู้ใช้สมรรถกดปุ่ม “ไมโครโฟน” บนหน้าจอ หรือ “พิมพ์” องค์ประกอบแห่งตนเองมี ยิ่งไปกว่านี้แห่งการโฆษณาดังที่กล่าวมาแล้วอีกต่างหากประกอบด้วยทางเข้าออกแนะนำวัตถุดิบ เช่น “ไก่ & บลอคงัวลี่” “สเต็ก & อาหาร” “เบคอน & หน่อไม้ฝรั่ง”ครั้นผู้ใช้เอ่ยปาก ไม่ก็จัดพิมพ์ส่วนผสมสำเร็จ “เชฟ Watson” จะประมวลผลออกมาดำรงฐานะสูตรของกินตามส่วนผสมสถานที่ผู้ใช้จ่ายวาง พร้อมกับคำแนะนำการวางแผนอาหารเมนูอาหารกระยาเลย พร้อมด้วยซุปของ Campbell’s กับแสดงเมนูอาหาร 10 วรรณะรายการอาหารแห่งคนเที่ยวหามากที่มาก“Watson ไม่ผิดปรับปรุงขึ้นไปเพื่อก่อสร้างความเชี่ยวชาญต้นฉบับ One-to-One สำหรับแบรนด์ และลูกค้า เพราะสถานที่ Watson จักปฏิบัติหน้าที่ฟัง – ทบทวนดู – ตอบสนองทาบผู้ใช้งาน อีกด้วยการเรียนรู้ในอันที่ผู้ใช้งานถาม หลังจากนั้นวิเคราะห์ – วัดผล เพื่อให้ความจัดเจนสถานที่เชื่อมกับแบรนด์ กับอำนวยประโยชน์ต่อผู้ซื้อ พวกเราหลงเชื่อว่านี่จักภูมิทัศน์ใหม่ของงานโฆษณาการ” Jeremy Steinberg อดีตเทศมนตรีของ The Weather Company คุ้นจ่ายสัมภาษณ์ครั้นครั้งการประสานมือกันระหว่าง Campbell’s Soup กับดัก IBM กับ The Weather CompanyPhoto Credit : Michael Vi / Shutterstock.comเมื่อการติดต่อสื่อสาร ด้วยกันกระทำท้องตลาดภาพร่าง “Mass” กำลังจะน้อยลงจร และเข้าสู่ระยะเวลา Hyper-personalization บริบูรณ์รูปแบบ บริบูรณ์ทำเอาเทคโนโลยีการตลาดสมัยใหม่ มีบทบาทประธานงอกงาม เพื่อที่จะเชื่อมกับดักความชำนาญความรู้กรณีชำนาญสิ่งของ “มนุษย์” เพื่อที่จะครีเอทดำรงฐานะธุรกิจการโฆษณา กับการก่อท้องตลาดที่เข้าถึงลูกค้าได้รวมหมดแห่งระดับเซ็กเมนต์ ด้วยกันระดับเฉพาะบุคคลได้มาชนิดต้องใจ สนองตอบลูกค้ามนุชนั้นๆ ที่พลังสอดส่าย หรือมี Demand ที่ผลิตภัณฑ์-บริการนั้นๆ ที่แตงโมเมนต์ ไม่ก็จังหวะเวลา ด้วยกันสถานที่สถานที่ใช่! กับในบั้นปลายต่อจากนั้นเที้ยรเพิ่มประสิทธิภาพให้แบรนด์ “ปิดงานขาย” ได้มาง่ายขึ้นไป เร็วขึ้นไป Source : Adobe, IBM, AdAge, Adweek, Mobile Marketer, IDC